(หมายเหตุ : นี่เป็นการย้ายบางบทความมาจากบล็อก all about Cusack for Thai fans ที่หลังๆ คนเขียนไม่ได้อัพเดทแล้วค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่รักคุณจอห์นแล้ว แต่คือขี้เกียจ 555)
Love & Mercy หนังใหม่ล่าสุดของคุณจอห์นกำลังจะเข้าฉายในวันที่ 18 มิถุนายน 2558 นี้ค่ะ เป็นหนังชีวประวัติของ ไบรอัน วิลสัน สมาชิกคนสำคัญของวง The Beach Boys ที่เป็นวงดนตรีชื่อดังของสหรัฐฯ ในยุคเดียวกับ The Beatles และ The Rolling Stone ค่ะ
ซิงเกิลที่ 2 ของอัลบั้มใหม่ของวงลูกรัก--One OK Rock พอดีว่าเป็นเนื้อภาษาอังกฤษล้วน เลยอยากลองทำดู จากเดิมที่ง่อยรับประทานเมื่อเจอเนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่นซึ่งเรามีภูมิความรู้เท่าหางอึ่ง อ่านคันจิได้ไม่ถึง 20 ตัว T.T เอ้า แปะเพลงก่อน นี่ Official MV เนอะ
ตามด้วยเนื้อเพลง
Bedroom Warfare
Keep your enemies close จงเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว
Your enemies close เก็บไว้ให้ใกล้ตัว
I cut you off but you're still here ฉันตัดขาดจากเธอไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยู่ตรงนี้
You're like a whisper in my ear เธอเหมือนเสียงกระซิบข้างหูฉัน
You start soft but you're getting louder เริ่มแรกเป็นเพียงเสียงแผ่วเบา และแล้วจึงดังขึ้น
Every hour I feel the power ทุกชั่วโมงที่ผันผ่าน ฉันรู้สึกได้ถึงพลัง
We go hard till the morning light เราฟาดฟันกันจนถึงรุ่งสาง
We battle nightly เราก่อสงครามกันทุกค่ำคืน
(Keep your enemies close…) (จงเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว...)
Bedroom warfare in the middle of the night มันคือสงครามในห้องนอนตอนกลางดึก
Out of nowhere you come back into my life เธอหวนกลับสู่ชีวิตฉันแบบไม่ให้ทันตั้งตัว
And I know in the morning we'll be และฉันรู้ดีว่าเมื่อถึงตอนเช้า
Nothing more than each other's enemy เราจะเป็นได้ก็เพียงศัตรูของกันและกัน
Bedroom warfare in the middle of the night มันคือสงครามในห้องนอนตอนกลางดึก
Keep your enemies close จงเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว
Your enemies close เก็บไว้ให้ใกล้ตัว
It's like I've never had a chance ราวกับว่าฉันไม่เคยมีโอกาส (ไม่มีทางสู้)
We're doing a dangerous dance เราต่างร่ายรำท่วงท่าที่ร้ายกาจ
It's not a fair fight when you're already naked ไม่ใช่การต่อสู้ที่ยุติธรรมเลยเมื่อร่างเธอเปลือยเปล่า
Your body language is so persuasive ภาษาเรือนกายของเธอช่างเชิญชวน
We go hard 'till the morning light เราฟาดฟันกันจนถึงรุ่งสาง
We battle nightly เราก่อสงครามกันทุกค่ำคืน
(Keep your enemies close…) (จงเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว...)
Bedroom warfare in the middle of the night มันคือสงครามในห้องนอนตอนกลางดึก
Out of nowhere you come back into my life เธอหวนกลับสู่ชีวิตฉันแบบไม่ให้ทันตั้งตัว
And I know in the morning we'll be และฉันรู้ดีว่าเมื่อถึงตอนเช้า
Nothing more than each other's enemy เราจะเป็นได้ก็เพียงศัตรูของกันและกัน
Bedroom warfare in the middle of the night มันคือสงครามในห้องนอนตอนกลางดึก
Keep your enemies close จงเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว
Your enemies close เก็บไว้ให้ใกล้ตัว
I cut you off but you're still here ฉันตัดขาดจากเธอไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยู่ตรงนี้ Bedroom warfare in the middle of the night มันคือสงครามในห้องนอนตอนกลางดึก Out of nowhere you come back into my life เธอหวนกลับสู่ชีวิตฉันแบบไม่ให้ทันตั้งตัว And I know in the morning we'll be และฉันรู้ดีว่าเมื่อถึงตอนเช้า Nothing more than each other's enemy เราจะเป็นได้ก็เพียงศัตรูของกันและกัน Bedroom warfare in the middle of the night มันคือสงครามในห้องนอนตอนกลางดึก
We go hard till the morning light --> go hard นี่คือประมาณว่าไม่มีการออมมือให้ จะบอกว่าเล่นไม้แข็งก็ได้
Out of nowhere you come back into my life --> บางคนจะงงนะ แต่ถ้าใส่เครื่องหมาย , ลงกลางประโยค อาจจะเข้าใจง่ายขึ้น --> Out of nowhere, you come back into my life. คือว่าจู่ๆ นางก็โผล่มา พรวดพราดมากันแบบดื้อๆ
And I know in the morning we'll be/ Nothing more than each other's enemy --> จริงๆ นี่คือประโยคเดียวกัน "And I know, in the morning, we'll be nothing more than each other's enemy."แต่เวลาพิมพ์เนื้อเพลง เขามักจะตัดให้ลงท่อนที่ร้อง ซึ่งก็จะทำให้เรางงได้
ที่จริงแล้วเพลงนี้ไม่ได้เข้าใจยากนะ เพลงอย่าง Lost Star หรือ A Thousand Years ยังจะเข้าใจยากกว่าเสียอีก โดยเฉพาะ Lost Star นี่ มหากาพย์มาก เห็นแปลผิดแปลพลาดกันเยอะ ซึ่งเท่าที่ดู คิดว่าเหตุผลอย่างหนึ่งก็มาจากการพิมพ์เนื้อเพลงแบบที่ว่านั่นแหละ มันทำให้มองรูปประโยคที่ต่อเนื่องกันไม่ออก แล้วก็แปลพลาดกันได้ง่ายๆ
ในอัลบั้มใหม่นี่ เจ้าตัวเล็ก-ทากะจะโดนแฟนเพลงบางคนถล่มมากเรื่องเนื้อเพลง แบบไรวะ เขียนแต่เพลงรักๆ ใคร่ๆ มันไม่ห้าว ไม่แมน ไม่มีสาระ ไม่ร็อค (เกี่ยว?) อ่านแล้วก็แอบมองบน แบบว่า โทษค่ะ คิดว่าเพลงอย่าง Wherever You Are, Decision, All Mine, Good Goodbye นี่คืออะไรวะคะ คุณ?
ด้าน MV ก็มีคนวิจารณ์ว่าดูแล้วไม่เก็ท มีแบบมาเต้นๆ มันจะใช่เหรอ อะไรงี้ โดยส่วนตัวคิดว่าคงแตกความคิดมาจากประโยคที่ว่า We're doing a dangerous dance ในเพลงน่ะ สำหรับเราแล้ว ไม่คิดว่ามันแปลกหรืออะไรนะ อาจจะเพราะชอบดูรายการ So You Think You Can Dance ดังนั้นก็จะชินกับไอ้การเต้นร่วมสมัยประกอบเพลงแบบนี้อยู่แล้ว
ลองแอบสืบประวัตินักเต้นสองคนใน MV แบบว่าหน้าคุ้นๆ ไม่รู้ว่าเคยมาแข่งในรายการโปรดของเรามั้ย ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ ฝ่ายหญิงชื่อ Charlotte Wilderianne นางเป็นนักเต้นดีเด่นนะ เป็นนักเรียนสายแดนซ์ระดับเกียรตินิยมของ LIPA (Liverpool Institute for Performing Arts) ตอนนี้เป็นนักเต้นอาชีพและนางแบบ ส่วนฝ่ายชายก็คล้ายๆ กัน ชื่อ Jake Moyle เป็นทั้งนักเต้นและนายแบบ แล้ว MV นี้ไปถ่ายกันที่อังกฤษ ก็คงเป็นเรื่องปกติที่จะใช้นักเต้นอังกฤษ